THE HOUSE ON SATHORN

THE HOUSE ON SATHORN

เกี่ยวกับโครงการ

ชื่อโครงการ

THE HOUSE ON SATHORN

ประเภทอาคาร

Building Renovation & Building Conservation

ขอบเขตงาน

Structural design & Building Conservation

วิศวกรโครงสร้าง

Stonehenge (Somchit peumpremsuk, Somsak Suebsai)

สถานที่

Bangrak, Bangkok

เสร็จสิ้น

2015

บ้านสาทร หรือ บ้านหลวงสาทรราชายุตก์ ถูกสร้างขึ้นในปี 2432 เป็นของ หลวงสาทรราชายุตก์ นักธุรกิจที่เป็นผู้รับผิดชอบในการสร้างคลองสาทร ในปีพ.ศ. 2453 หลวงสาทรราชายุตก์จำเป็นต้องสละทรัพย์สินด้วยเหตุผลทางการเงินในปี 2463 จนทำให้ที่นี่ถูกใช้เป็นรีสอร์ทหรู Hotel Royal แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปโรงแรมก็เสื่อมความนิยม และทำให้บ้านหลังนี้ก็กลายเป็นที่ตั้งของสถานทูตรัสเซียในปี พ.ศ. 2491-2542 ไปในที่สุด

คฤหาสน์หลังนี้ถูกดีไซนในแบบ “Neo Classical” และถูกทิ้งร้างจนกระทั่งโรงแรม W เปิดตัวโครงการที่จะบูรณะโบราณสถานนี้ในปี 2000 ซึ่งเป็นเรื่องทมี่ยากและซับซ้อนในฐานะที่เป็นอาคารทางประวัติศาสตร์การอุปถัมภ์ของกรมศิลปากร ทำให้แผนการดำเนินการต่างๆต้องได้รับการอนุมัติในทุกขั้นตอนของการปรับปรุง การบูรณะครั้งใหญ่นี้มุ่งเน้นไปที่การรื้อถอนส่วนที่ทรุดโทรม การบูรณะอาคารเดิมให้กลับมาใช้งานได้ และการรักษาองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมเดิม

การปรับปรุงเริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนฐานรากของอาคารเดิมด้วยการทำ low-pressure grout เพื่อเสริมความแข็งแรงของฐานรากและทำให้อาคารรับน้ำหนักได้มากขึ้น พื้นถูกเปลี่ยนเป็นไม้บนโครงเหล็กในบางส่วน โดยมีบางส่วนที่ใช้คอนกรีตเสริมเหล็ก วัสดุส่วนใหญ่ในห้องถูกปรับเปลี่ยนและนำออก แต่วัสดุเช่นพื้นหินอ่อน เพดานและองค์ประกอบสำคัญบางส่วนได้รับการอนุรักษ์ไว้ มีการเสริมโครงพื้นและโครงหลังคาเพื่อป้องกันการสั่น สุดท้ายมีการทำกำแพงกันดินบริเวณลานเพื่อรองรับต้นไม้เดิมจำนวน 3 ต้น (ต้นมะเดื่อ ต้นข่อย ต้นไทร) ตามที่กรมศิลปากรกำหนดไว้

หลังจากที่ใช้ระยะเวลาปรับปรุงอย่างยาวนานเกือบ 15 ปี  คฤหาสน์แห่งนี้ได้มีชีวิตใหม่อีกครั้งในฐานะร้านอาหารและสถานบันเทิงสำหรับโรงแรม W Bangkok หรือที่เรียกว่า “The House of Sathorn” ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอาคารสำนักงานสาทรสแควร์และโรงแรมดับเบิ้ลยูแบงคอกซึ่งตำแหน่งที่ตั้งขณะนี้ขนาบข้างคฤหาสน์ทั้งสองด้าน อาโดยโครงการนี้สามารถสำเร็จขึ้นได้จากองค์ความรู้ทางวิศวกรรมสมัยใหม่และความรู้อย่างละเอียดเกี่ยวกับเนื้อหาทางโบราณคดีของสถาปัตยกรรมเดิม  ซึ่งทำให้ The House of Sathorn สามารถกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง และเป็นหนึ่งในโบราณสถานที่โด่งดังที่สุดในประเทศไทย